บิ๊กเด่น หรือ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอโทษดาราสาวไต้หวัน ยืนยันไม่เข้าข้างคนผิด กำชับตำรวจดูแลนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงกรณี อันยู๋ชิง ดาราสาวไต้หวันแฉตำรวจไทยว่ารีดเงินเธอไป 27,000 ว่า ขณะนี้ตนรอฟังผลการสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้เกิดความชัดเจนทุกอย่าง ซึ่งเมื่อวานนี้ทางพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีคำสั่งให้ ผกก.สน.ห้วยขวาง มาปฏิบัติราชการที่ศปก.น.ไปแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเร่งให้มีการสอบสวนพยานต่างๆ ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนของบช.น.ก็ทำงานอยู่
“ยืนยันว่าจะทำตรงไปตรงมา ตามพยานหลักฐานใครผิดก็ว่าไปตามผิด ทั้งอาญาและวินัย
ทางการปกครองเราก็จะดูว่าใครบกพร่องอะไรบ้าง ซึ่งในการตั้งด่านในวันนั้นมีคนจำนวนมาก จะดูให้เกิดความชัดเจนในทุกๆ คน ให้เกิดความเป็นธรรมว่า ใครผิด ใครบกพร่องอะไรบ้าง ขอเวลาอีกสักระยะ เพื่อให้เกิดความแน่ชัดทุกอย่างให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ยืนยันว่าจะทำอย่างตรงไปตรงมาแน่นอน คนผิดก็ต้องถูกลงโทษ” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว
ส่วนเรื่องนาย สกาย นักท่องเที่ยวสิงคโปร์ที่อยู่บนรถกับดาราสาวไต้หวันกำลังพิจารณาอยู่ว่าตนจะเดินทางมาไทยเพื่อเปิดเผยเรื่องราวหรือไม่นั้น ทางตำรวจยินดีที่จะให้มาสอบสวน สมมติถ้าเขาไม่มาทางตำรวจก็จะเดินทางไปสอบสวนเพื่อให้รู้ความจริงทุกอย่างให้ได้ เพื่อให้ปรากฎให้ชัดเจนว่าใครผิดบ้าง ใครบกพร่องบ้าง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการแต่ขอเวลาสักระยะหนึ่ง โดยเรื่องนี้ตนได้เข้ามาควบคุมกำกับดูแลด้วยตนเอง
ประชาชนต้องคาดหวังผู้บังคับใช้กฎหมายสูงอยู่แล้ว ยืนยันว่าเราจะต้องทำให้ดีที่สุด ตอนนี้ได้เตรียมการวางระบบเพิ่มเติมในการตั้งจุดตรวจให้มีมาตรฐานโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งจะนำเรื่องนี้มาดูให้เกิดความรอบคอบในอนาคตต่อไป ส่วนเรื่องของวินัยจะต้องดูว่าใครผิดบ้างมีความบกพร่อง ส่วนเรื่องอาญาก็เป็นอีกส่วนหนึ่งใครผิดบ้าง วินัยกับอาญา อาจไม่เท่ากัน เช่น อาญาจะโดนกี่คนที่เกี่ยวข้องจริงๆ ส่วนวินัยคือความบกพร่องในการควบคุมดูแลตามสายงานต่างๆ จะต้องมีความรับผิดชอบด้วย
ส่วนประเด็นการไม่ดำเนินคดีเรื่องบุหรี่ไฟฟ้า จะเข้าข่ายความผิดกับชุดจับกุมวันนั้นหรือไม่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ทางผบช.น.ได้พูดตอบประเด็นนี้ไปบ้างแล้ว ตนขอให้รอความชัดเจนไปในทิศทางเดียวกัน ขอให้รอผลจากคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา ขณะนี้ได้มีการดำเนินคดีทางอาญาไปแล้ว และมีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย
“อยากให้ความเชื่อมั่นว่าในเรื่องต่างๆ เราในฐานะผู้รักษากฎหมาย ถ้าเกิดตำรวจผู้รักษากฎหมายทำผิด ก็ต้องลงโทษอย่างจริงจัง และก็ตำรวจดีๆ ยังมีอีกเยอะ เช่นเมื่อวานได้มีการมอบรางวัลให้กับสารวัตร ปคม. ถึงแม้ไม่ได้ปฎิบัติหน้าที่แต่พบเห็นการกระทำความผิด การชิงทรัพย์ร้านทองก็เข้าไปช่วยจับกุม ตำรวจดีๆ ก็ยังมีอีกมาก เราก็อยากให้กำลังใจด้วย ใครไม่ดีเราก็ว่ากันไป ผมยืนยันว่าจะทำให้ดีที่สุดและเน้นว่าเราเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ได้มีการกำชับตำรวจ ตม. ตำรวจท่องเที่ยว และตำรวจพื้นที่ จะต้องดูแลนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุด เรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความบกพร่องอะไรไป ผมในฐานะหัวหน้าหน่วย ก็ต้องขอโทษผู้ที่ได้รับความเสียหายในเรื่องนี้ กับเรื่องที่เกิดขึ้น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าว
ตำรวจรวบ ‘ซ้อเพลง’ นายหน้าค้ามนุษย์อายุ 19 ช็อกก่อเหตุมาแล้วหลายปี
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าจับกุม ซ้อเพลง นายหน้าค้ามนุษย์อายุ 19 ค้ากามผ่านทวิตเตอร์ ช็อกพบก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายปี พ.ต.ท.ณัฏฐพัชร์ งามประดิษฐ์ สว.กก.1 บก.ปคม.กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้นำกำลังเข้าจับกุม น.ส.วลัยลักษณ์ (สงวนนามสกุล) หรือ ซ้อเพลง อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 2819/2565 ลง 14 ธ.ค.65
ผู้ต้องหามีพฤติการณ์เป็นนายหน้า พาเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาเสนอขายบริการทางเพศผ่านทางทวิตเตอร์ ด้วยเนื้อหาชักชวนให้ซื้อบริการทางเพศ พร้อมโพสต์ภาพของผู้เสียหายแนบไปด้วย โดยผู้ต้องหาแจ้งว่า ค่าบริการต่อคน 1,500 บาท และผู้ต้องหาจะหักค่านายหน้าค้าประเวณี 500 บาท ที่น่าตกใจคือผู้ต้องหานั้นได้ก่อเหตุแบบนี้มาหลายปีแล้ว
จากการค้นบ้านของซ้อเพลงจำนวน 2 จุดตามหมายค้นศาลอาญาธนบุรี พบโทรศัพท์มือถือ ตรวจสอบภายในเครื่องมีการลงชื่อเข้าใช้ทวิตเตอร์ดังกล่าว และพบข้อความสนทนาทางแอปพลิเคชันไลน์มีลักษณะเสนอขายบริการทางเพศเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ให้แก่ผู้ที่สนใจ จึงได้เข้าทำการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากการตรวจสอบข้อมูลทางคดี พบว่าผู้ต้องหาพบเคยถูกดำเนินคดี ในความผิดฐาน “เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง ที่อายุเกิน 15 ปี แต่ยังไม่เกิน 18 ปี” มาก่อน ซึ่งมีพฤติกรรมในการกระทำการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการเป็นธุระจัดหาเด็กหญิงอายุไม่เกิน 18 ปี มาทำการค้าประเวณี ให้กับลูกค้า
ใช้วิธีการหลอกลวงอ้างว่าจะพาเด็กหญิงไปทำงานบริการลักษณะการรับงานเอ็นเทอร์เทนชงเหล้า พูดคุยสร้างความสุขให้กับลูกค้า และกลับถูกผู้ต้องหาบังคับให้ค้าประเวณี โดยที่เด็กหญิงไม่ได้สมัครใจยินยอมแต่อย่างใด ซึ่งถือได้ว่ามีพฤติกรรมในการกระทำความผิดลักษณะดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ จับกุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> เซ็กซี่บาคาร่า น้ำเต้าปูปลาออนไลน์ เว็บตรง100 ดัมมี่ออนไลน์ UFA666WIN